สศท.11
Roae11

เมนู

Views: 10

ข่าวที่ 126/2568 ทุกภาคส่วนร่วมสังเกตการณ์ Crop Cutting เพชรบูรณ์ สศก. ยันหลักข้อมูลสถิติการเกษตร ตรวจสอบได้ สะท้อนความจริงในพื้นที่

เขียนโดย Athiwat Poaek เมื่อ 29 ตุลาคม 2568

ทุกภาคส่วนร่วมสังเกตการณ์ Crop Cutting เพชรบูรณ์

สศก. ยันหลักข้อมูลสถิติการเกษตร ตรวจสอบได้ สะท้อนความจริงในพื้นที่

นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงการนำคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ และภาคีเครือข่าย เข้าร่วมปฏิบัติการตั้งแปลงเก็บเกี่ยวผลผลิต (Crop Cutting) ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 4 แปลง เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2568 ณ จังหวัดเพชรบูรณ์ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีเนื้อที่เพาะปลูกข้าวโพดมากที่สุดในประเทศ โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอและทบทวนแนวทางการทำ Crop Cutting ให้สอดคล้องกับปัจจัยและสถานการณ์การผลิตจริงในพื้นที่ที่หลากหลายแตกต่างกัน ทั้งแปลงที่ปลูกในพื้นที่เหมาะสมและไม่เหมาะสม เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ตรงตามความเป็นจริงที่สุด โดยย้ำว่าการทำงานของ สศก. จะต้องตั้งอยู่บนหลักวิชาการที่ตรวจสอบได้ และเจ้าหน้าที่ต้องมีจรรยาบรรณในการเก็บข้อมูลและยึดความจริงเป็นหลักเสมอ

การลงพื้นที่ดังกล่าว เป็นการสำรวจแปลงในพื้นที่ ต.นาซำ ต.ศิลา และ ต.ตาดกลอย ของอำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีเกษตรกรผู้ให้ความอนุเคราะห์พื้นที่แปลงสำรวจและอนุญาตให้จัดเก็บผลผลิต จำนวน 4 ราย ซึ่งการปฏิบัติการได้รับความร่วมมือจากผู้แทนหน่วยงานสำคัญต่างๆ อาทิ สมาคมการค้าพืชไร่ สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย บริษัทเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (CP) กรมส่งเสริมการเกษตร เกษตรและสหกรณ์จังหวัดเพชรบูรณ์ สภาเกษตรกรแห่งชาติ กรมวิชาการเกษตร เกษตรกรกลุ่มผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ

ที่ผ่านมา สศก. มีกระบวนการจัดทำข้อมูลสถิติการสำรวจด้วยตัวอย่าง (List Frame Survey) จำนวน 30 สินค้า (พืชไร่ 6 พืชสวน 23 ปศุสัตว์ 1) และมีการจัดเก็บข้อมูลผลผลิตต่อไร่โดยวิธีตั้งแปลงเก็บเกี่ยวผลผลิต (Crop Cutting) จำนวน 6 สินค้า ได้แก่ ข้าวนาปี ข้าวนาปรัง ถั่วเหลือง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง และสับปะรดปัตตาเวีย ซึ่งเป็นการบูรณาการข้อมูลภาคสนามที่แม่นยำ ผ่านการสัมภาษณ์ และลงสำรวจ Crop Cutting ซึ่งมีระเบียบวิธีสากลและรัดกุม เช่น การสุ่มครัวเรือนและแปลงตัวอย่างตามหลักวิชาการ การปรับค่าความชื้นข้าวโพดที่ 14.5% และการหักผลผลิตตกหล่น ควบคู่กับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง โดยใช้โดรน และดาวเทียม Sentinel-2 เพื่อสำรวจความสมบูรณ์ของพืชพรรณและวิเคราะห์การใช้ประโยชน์ที่ดิน ดังนั้น การดำเนินงานเพื่อให้ได้มาซึ่ง “ข้อมูลเอกภาพ” ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้รับการยอมรับและเป็นเอกภาพจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะผ่านการกลั่นกรองอย่างเข้มข้นในทุกระดับ ตั้งแต่คณะกรรมการระดับภาค จนถึง ระดับประเทศ ที่มีปลัดกระทรวงเกษตรฯ เป็นประธาน จึงต้องใช้ระยะเวลาในการกระบวนการต่างๆ แต่มั่นใจได้ในความแม่นยำ อย่างไรก็ตาม สำหรับการใช้งานข้อมูลล่วงหน้า สศก. ได้มีการจัดทำ “ข้อมูลพยากรณ์” ซึ่งมีการคาดการณ์และปรับปรุงข้อมูลตามสถานการณ์และบริบทที่เปลี่ยนแปลงไปทุกไตรมาส เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ได้ใช้ข้อมูลที่มีความถูกต้องแม่นยำ

สำหรับผลสรุปจากการลงพื้นที่สำรวจ Crop Cutting ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทั้ง 4 แปลง รวม 8 จุด ณ จังหวัดเพชรบูรณ์ พบว่า ผลผลิตเฉลี่ยของแปลงตัวอย่างทั้ง 4 แปลง ได้ผลผลิตต่อไร่สุทธิเฉลี่ย 921 กิโลกรัมต่อไร่ โดยหักผลผลิตตกหล่นและเนื้อที่ไม่ได้ปลูกออกแล้ว โดยมีผลผลิตสูงสุดที่ 1,505 กิโลกรัมต่อไร่ และต่ำสุดที่ 392 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งผลการสำรวจทดลองครั้งนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการสำรวจเพื่อใช้ในการฝึกอบรม และเพื่อแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของผลผลิตในพื้นที่ ไม่ใช่ข้อมูลที่จะนำมาใช้เป็นตัวแทนของพื้นที่เพาะปลูกจริงทั้งหมดได้

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นว่า แปลงที่มีความเหมาะสมและมีการจัดการที่ดีสามารถให้ผลผลิตที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยพยากรณ์ของประเทศได้จริง ซึ่งตามข้อมูลล่าสุดของ สศก. (ข้อมูลพยากรณ์ ณ เดือนตุลาคม 2568) ได้คาดการณ์สถานการณ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีเพาะปลูก 2568/69 ว่าจะมีผลผลิตรวม 5.309 ล้านตัน และมีผลผลิตต่อไร่เฉลี่ย 793 กิโลกรัมต่อไร่ โดยเป็นข้อมูลที่สะท้อนสถานการณ์การผลิตของเกษตรกรส่วนใหญ่ทั้งประเทศ ซึ่งแหล่งผลิตสำคัญส่วนใหญ่ของไทยอยู่ในเขตที่มีความเหมาะสมน้อย โดยจากข้อมูล 5 จังหวัดแหล่งผลิตสำคัญ (น่าน ตาก เพชรบูรณ์ นครราชสีมา และนครสวรรค์) ซึ่งมีพื้นที่เพาะปลูกรวมกันมากกว่าร้อยละ 50 ของพื้นที่ทั้งประเทศ พบว่า มีเขตเหมาะสมมากและเหมาะสมปานกลาง (S1+S2) มีเพียงร้อยละ 13.24 ส่วนพื้นที่เหมาะสมน้อยและไม่เหมาะสม (S3+N) มีถึงร้อยละ 86.76 จึงทำให้ผลผลิตเฉลี่ยภาพรวมทั้งประเทศอยู่ที่ 793 กิโลกรัมต่อไร่

“การลงพื้นที่ ณ จังหวัดเพชรบูรณ์ครั้งนี้ เป็นโอกาสสำคัญที่ทุกภาคส่วนที่มาร่วมสังเกตการณ์ได้ร่วมกันตรวจสอบกระบวนการทำงานจริง เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลการผลิตที่ได้มีความแม่นยำสูงสุด สะท้อนศักยภาพและข้อเท็จจริงในพื้นที่ได้อย่างแท้จริง และจะได้เข้าใจหลักการทำงานของ สศก. มากขึ้น อันจะนำไปสู่การปรับปรุงและพัฒนาระบบการจัดเก็บข้อมูลสถิติการเกษตรของประเทศให้ทันสมัยและเป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่ายต่อไปทั้งนี้ สศก. ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่มาร่วมสังเกตการณ์ในครั้งนี้ และจะมุ่งมั่นพัฒนาการสำรวจอย่างไม่หยุดยั้ง โดยล่าสุด สศก. ได้เริ่มพัฒนาใช้ International Asian Harvest Monitoring System for Rice หรือ INAHOR ซึ่งเป็นระบบติดตามการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวในทวีปเอเชียที่ใช้ดาวเทียม ALOS-2 เพื่อช่วยในการประเมินพื้นที่และปริมาณผลผลิตข้าว โดยอยู่ระหว่างการนำร่องและฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ส่วนกลางและ ส่วนภูมิภาคเพื่อประเมินเนื้อที่เพาะปลูกข้าว และคาดว่าจะเริ่มใช้งานได้ในช่วงกลางปีหน้า” เลขาธิการ สศก กล่าว

******************************************************

ข่าว : ส่วนประชาสัมพันธ์ / ข้อมูล : ศูนย์สารสนเทศการเกษตร–

ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

เลขที่ 50 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร

กทม. โทร 02-9407239-40

Views: 10

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า

เลือกธีมสี