สศท.11
Roae11

เมนู

Views: 0

ข่าวที่ 132/2568 จ.พัทลุง หนุน ‘สละพันธุ์สุมาลี’ พืชเศรษฐกิจสำคัญ ปี 68 สร้างมูลค่ากว่า 203.52 ล้านบาท

เขียนโดย Athiwat Poaek เมื่อ 17 พฤศจิกายน 2568

จ.พัทลุง หนุน ‘สละพันธุ์สุมาลี’ พืชเศรษฐกิจสำคัญ ปี 68 สร้างมูลค่ากว่า 203.52 ล้านบาท

นายไพฑูรย์ สีลาพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 9 สงขลา (สศท.9) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า สละพันธุ์สุมาลีถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีศักยภาพของจังหวัดพัทลุง เนื่องจากเจริญเติบโตได้ดีในสภาพภูมิอากาศและดินของภาคใต้ตอนล่าง ดูแลรักษาง่าย ให้ผลผลิตต่อเนื่องและคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ เป็นที่นิยมในการบริโภคผลสดและแปรรูปเป็นสละลอยแก้ว ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตในท้องถิ่น ทั้งนี้ จังหวัดพัทลุงได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมและผลักดันการปลูกสละพันธุ์สุมาลีอย่างต่อเนื่อง โดยมีโครงการเกษตรเชิงท่องเที่ยว สนับสนุนการขายออนไลน์ ส่งเสริมการแปรรูป และจัดอบรมเกษตรกรปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ ทั้งนี้ สละพันธุ์สุมาลีผลสดสามารถสร้างมูลค่าให้กับจังหวัดปี 2568 กว่า 203.52 ล้านบาท

สศท.9 ติดตามสถานการณ์การผลิตสละพันธุ์สุมาลีของจังหวัดพัทลุง ปี 2568 (ข้อมูล ณ 4 พ.ย. 68) พบว่า มีพื้นที่ปลูกรวมทั้งจังหวัด 3,808 ไร่ เนื้อที่ให้ผลผลิต 3,153 ไร่ แหล่งผลิตสำคัญอยู่ในพื้นที่อำเภอป่าบอน เกษตรกรผู้ปลูก 1,112 ครัวเรือน (เฉลี่ย 2.84 ไร่/ครัวเรือน) ได้รับมาตรฐาน GAP จำนวน 146 ราย ครอบคลุมพื้นที่ 525 ไร่ ผลผลิตรวมทั้งจังหวัด อยู่ที่ 5,088 ตัน/ปี ผลผลิตเฉลี่ย 1,614 กิโลกรัม/ไร่/ปี เกษตรกรสามารถเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปี ซึ่งสละพันธุ์สุมาลีโดยทั่วไปจะใช้เวลาปลูกประมาณ 3 ปี จึงจะเริ่มให้ผลผลิต ซึ่งผลผลิตจะออกเต็มที่เมื่ออายุประมาณ 7-8 ปี และจะออกต่อเนื่องประมาณ 20 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและการดูแลรักษา สำหรับราคาที่เกษตรกรขายได้ ณ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 อยู่ที่ 40 บาท/กิโลกรัม ทั้งนี้ จำหน่ายในรูปแบบผลสด จำนวน 4,884.48 ตัน หรือ      ร้อยละ 96 และแปรรูป จำนวน 203.52 ตัน หรือ ร้อยละ 4 ซึ่งสามารถสร้างรายได้จากการจำหน่ายผลสดอยู่ที่ 183,055 บาท/ครัวเรือน/ปี

สำหรับการจำหน่ายสละพันธุ์สุมาลีของจังหวัดพัทลุง แบ่งเป็น ผลผลิตร้อยละ 50 เกษตรกรจำหน่ายแผงลอย อำเภอป่าบอนจังหวัดพัทลุง , ร้อยละ 21 ส่งขายไปยังจังหวัดภูเก็ต สตูล และสงขลา , ร้อยละ 13 จำหน่ายผ่านพ่อค้าคนกลาง ร้อยละ 10 ขายตรงจากสวนโดยมีพ่อค้ามารับซื้อหน้าสวน , ร้อยละ 4 จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ได้แก่ ThailandPostMart และร้อยละ 2 วางจำหน่ายที่สวนสละที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว 

ด้านการแปรรูป เกษตรกรนิยมทำเป็น “สละลอยแก้ว” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยมของผู้บริโภค โดยผลผลิตจำนวน 1 กิโลกรัม สามารถทำสละลอยแก้วได้ประมาณ 35 ถ้วย เกษตรกรและกลุ่มแปลงใหญ่ในพื้นที่ จำหน่ายในราคา 15 บาท/ถ้วย หรือ 1 กิโลกรัม สร้างรายได้ 525 บาท นอกจากนี้ ยังมีการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ไวน์สละ แบ่งเป็นขนาด 375 ml ราคา 500 บาท/ขวด และขนาด 750 ml ราคา 1,000 บาท/ขวด ซึ่งตัวอย่างของแปลงใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในการแปรรูปไวน์สละพันธุ์สุมาลี คือ กลุ่มแปลงใหญ่สละตำบลทุ่งนารี ในชื่อแบรนด์ “ไวน์ป่าบอนซิกเนเจอร์” และแปลงใหญ่สละตำบลหนองธง ในชื่อแบรนด์ “ไวน์สวนสละลุงถัน” ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์แปรรูปไวน์สละนอกจากจะสร้างรายได้ให้จังหวัดแล้ว ยังสามารถเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่จะเป็น Soft Power ของประเทศ เพื่อผลักดันการส่งออกซึ่งจะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนชาวสวนสละ ตลอดจนสร้างงานและรายได้ให้กับประเทศ

“จากการส่งเสริมและผลักดันของภาครัฐร่วมกับเกษตรกรในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้การปลูกสละพันธุ์สุมาลีขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ปัจจุบันจังหวัดพัทลุงมีกลุ่มแปลงใหญ่สละทั้งหมด 8 แปลง สมาชิก 374 คน พื้นที่ปลูกกว่า 3,140 ไร่ สะท้อนถึงความสำเร็จของการรวมกลุ่มเกษตรกรในการพัฒนาพืชเศรษฐกิจที่มีศักยภาพ และเป็นอีกก้าวสำคัญ ในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของจังหวัดอย่างยั่งยืน โดยจังหวัดพัทลุงได้มุ่งส่งเสริมยกระดับคุณภาพสละพันธุ์สุมาลี พัฒนามาตรฐานสินค้า และขยายช่องทางการตลาดทั้งในรูปแบบผลสดและผลิตภัณฑ์แปรรูปเพื่อสร้างรายได้ เพิ่มมูลค่า และยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้มั่นคงต่อไป” ผู้อำนวยการ สศท.9 กล่าวทิ้งท้าย

***********************************************

ข่าว : ส่วนประชาสัมพันธ์/ข้อมูล : สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 9 สงขลา–

ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

เลขที่ 50 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร

กทม. โทร 02-9407239-40

Views: 0

เลือกธีมสี